ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับพ.ร.บ. ภาษี ประกันรถ ที่จะทำให้คุณเสียเงินก้อนโต

จากประสบการณ์ รับลูกค้าหน้าร้านของการันตี24 เกี่ยวกับพ.ร.บ ต่อภาษี และประกันภัยรถยนต์ จะพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 90% จะมีความเข้าใจผิด หรือไม่รู้ ในเรื่องต่างต่อไปนี้ ซึ่งอาจทำให้ค่าปรับจราจร ค่าปรับล่าช้าหรือเสียเงินก้อนโต หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ลองมาเช็คดูครับ มีอะไรที่คุณยังเข้าใจผิดๆ บ้าง


ความเข้าใจผิดที่ 1. เข้าใจว่า พ.ร.บ. กับ ภาษีรถ คืออันเดียวกัน  
พอคิดว่าเป็นอันเดียวกัน เหมือนกัน จะพูดแบบไหนก็ได้ คิดว่าจะได้ผลลัพท์เหมือนกัน ความเข้าใจผิดนี้ ทำให้เข้าใจผิดไปอีกว่า วันที่บนป้ายภาษี คือวันหมดอายุของพ.ร.บ. ซึ่งทำให้พ.ร.บ. ขาดอายุ เพราะเริ่มคุ้มครองก่อนได้ป้ายภาษี (ป้ายภาษี สมัยก่อนเป็นวงกลม ก็เรียก ป้ายวงกลม ตอนนี้ป้ายภาษีเปลี่ยนเป็นสี่เหลี่ยม ยังมีคนเรียก ป้ายวงกลมอยู่ แต่ไม่มีผลกระทบอะไร แค่รู้อายุของคนพูดเท่านั้น 555)


ความเข้าใจผิดนี้ จะส่งผลเสีย 2 อย่างคือ 

1.คุยกับหน้าร้านไม่รู้เรื่อง อยากจะต่อภาษี แต่บอกหน้าร้านว่าซื้อพ.ร.บ. หน้าร้านก็ทำพ.ร.บ.ให้ ถ้ามีพ.ร.บ.อยู่แล้ว ก็ทำให้ซ้ำซ้อนกับของเดิม บางคนหนักกว่า เข้าใจว่า เดี๋ยวป้ายภาษีจะส่งมาที่บ้าน ซึ่งไม่มีมาหรอก เพราะยังไม่ได้ต่อภาษี ทำให้ขาดต่อภาษี ต้องเสียค่าปรับจราจร ค่าปรับชำระล่าช้าเพิ่ม

2.การซื้อพ.ร.บ. แล้วบอกให้คุ้มครองตามวันที่ในป้ายภาษี ซึ่งจะทำให้พ.ร.บ. ขาดอายุ ถ้าไม่มีกรมธรรม์เดิมมาให้ดู หน้าร้านจะถามวันหมดอายุ เพื่อลงวันเริ่มคุ้มครองต่อจากเดิม ในกรณีที่กรมธรรม์เดิมยังไม่ขาดอายุ แต่ถ้าขาดอายุแล้ว หรือไม่ทราบว่าหมดอายุเมื่อไหร่ การันตี24 จะให้เริ่มคุ้มครองทันที เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ไม่สามารถคุ้มครองย้อนหลังให้ได้ ลูกค้าที่เข้าใจผิด จะบอกวันคุ้มครองผิด บางที่ก็จะออกวันคุ้มครองตามที่ลูกค้าบอก เพราะลูกค้าน่าจะรู้ข้อมูล มากกว่าคนอื่นเพราะเป็นรถตัวเอง 

ข้อมูลที่ถูกต้อง คือ 

พ.ร.บ. เป็นประกันภัยภาคบังคับ กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก ต้องจัดทำทุกปี 
  • ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท 
  • หากเฉี่ยว/ชน ผู้อื่น ไม่จ่ายค่ารักษาให้เขา แล้วเขาไปเบิกกับกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ กองทุนฯจะมาเรียกเก็บกับเจ้าของรถที่ไม่มีพ.ร.บ. พร้อมบวกเพิ่มอีก 20% ถ้าไม่จ่ายอีก จะถูกยึดรถ
  • ต้องซื้อพ.ร.บ. ก่อน แล้วนำส่วนท้ายของพ.ร.บ. ซึ่งบางคนเรียกว่า หางพ.ร.บ. แนบกับสำเนา/เล่มทะเบียนรถเป็นเอกสารหลักฐานในการยื่นเสียภาษีรถ


ภาษี เป็นหน้าที่ของผู้ใช้ประโยชน์จากรถหรือเจ้าของรถ กฎหมายบังคับ รถทุกคันต้องชำระภาษี หากชำระล่าช้า จะมีผลดังนี้
  • ค่าปรับจราจร 400-1,000 บาท
  • ค่าปรับล่าช้า 1% ต่อเดือน เศษของวัน คิดเป็น 1 เดือน
  • ชำระช้าเกิน 1 ปี ต้องตรวจสภาพรถ ก่อนชำระภาษีทุกครั้ง
  • ชำระช้าเกิน 3 ปี จะถูกระงับทะเบียน ต้องจดทะเบียนใหม่ หากจะขายหรือโอน เปลี่ยนเจ้าของ

ความเข้าใจผิดที่ 2. เข้าใจว่า พ.ร.บ. กับ ภาษีรถ เป็นวันเดียวกัน หรือต้องทำพร้อมกัน 

เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เราซื้อรถมาใหม่ รถยังเป็นป้ายแดง ตอนที่รถออกจากศูนย์บริการ จะมีพ.ร.บ.กับประกันรถยนต์ 2 อย่างติดมากับรถ เพราะให้มีความคุ้มครองตั้งแต่แรก หากเกิดอะไรขึ้น จะสามารถเบิกเคลมได้เลย เราจะขับป้ายแดงประมาณ 1-3 เดือน ซึ่งช่วงเวลานั้น ยังไม่มีป้ายภาษี เมื่อเราได้เล่มทะเบียนรถจะได้ป้ายภาษีมาด้วย เพื่อให้เรามาติดหน้ากระจกรถ แสดงว่าเราชำระภาษีของรถคันนี้เรียบร้อยแล้ว ถ้าเราซื้อรถเงินผ่อน ผ่านไฟแนนซ์ เล่มทะเบียนรถ ไฟแนนซ์จะเก็บไว้ จะถ่ายสำเนาให้เราเก็บไว้ เพื่อแสดงเมื่อถูกตรวจค้น ซื้อพ.ร.บ. ต่อภาษี จนเราผ่อนครบ ไฟแนนซ์จะทำการโอนเป็นชื่อของเรา พร้อมส่งเล่มจดทะเบียนให้เรา



ความเข้าใจผิดนี้จะทำให้ 

1.ตอนต่ออายุประกันรถยนต์ ต้องอายุพ.ร.บ. ด้วยเพราะทำมาพร้อมกันตั้งแต่วันออกรถ พอเข้าใจผิดว่าต้องทำให้ตรงกับวันเสียภาษี จะต่ออายุเฉพาะประกันรถยนต์ ไม่ได้ต่อพ.ร.บ. จึงทำให้พ.ร.บ.ขาดอายุ 

2.ประกันรถยนต์และพ.ร.บ. ขาดอายุ เพราะดูแต่วันจดทะเบียนที่ระบุอยู่บนป้ายภาษี ทำให้ประกัน/พ.ร.บ.ขาดอายุ 


สิ่งที่ถูกต้อง คือ 

1.วันที่ออกรถจากศูนย์บริการ (ป้ายแดง) ไฟแนนซ์จะจัดทำ
  • พ.ร.บ.
  • ประกันรถยนต์
เพื่อให้มีความคุ้มครอง ตั้งแต่ครั้งแรก ที่เรานำรถคันนั้นมาใช้งาน



2.หลังจากที่เราใช้ป้ายแดง 1-3 เดือน ไฟแนนซ์จะแจ้งจดทะเบียนรถ จะได้เล่มทะเบียนกับป้ายทะเบียน โดยวันที่จดทะเบียนกับวันที่บนป้ายภาษีจะเป็นวันเดียวกัน 

3.เราใช้ส่วนท้าย พ.ร.บ. เพื่อหลักฐานแนบในการเสียภาษีเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่า รถที่ต่อภาษีเรียบร้อยต้องจัดทำพ.ร.บ.แล้วด้วย ไม่เกี่ยวกับวันคุ้มครองต้องตรงกับป้ายภาษีหรือไม่

ความเข้าใจผิดเรื่องนี้ ทำให้พ.ร.บ. ขาดอายุ ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้น คุณอาจต้องเสียเงินก้อนโตได้ แต่ถ้าคุณเข้าใจถูกต้องแล้ว จะทำให้คุณมีความคุ้มครองทั้งพ.ร.บ.และประกันรถยนต์ ตลอดเวลาที่คุณใช้รถ คุณไม่ต้องรับความเสี่ยงเอง การันตี24 มีบริการแจ้งเตือนต่ออายุให้คุณ ฟรีๆ เพื่อให้คุณไม่ต้องเสียเวลาจำเอง เพียงเพิ่มการันตี24 เป็นเพื่อน

เพิ่มเพื่อน

ความเข้าใจผิดที่ 3. เข้าใจว่า ไม่มี พ.ร.บ. ไม่เป็นไร มีประกันประเภท 1 แล้ว 

ความเข้าใจผิดนี้ 

คือ คิดว่าประกันประเภท 1 หรือชั้น 1 คุ้มครองภัยทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่ต้องทำพ.ร.บ.ให้ซ้ำซ้อน เบิกจากประกันประเภท 1 อย่างเดียวก็จบ ความเข้าใจผิดนี้อาจทำให้คุณเสียเงินก้อนโตได้ง่ายๆ หรือถูกดำเนินคดีอาญา ถึงแม้คุณจะมีประกันรถยนต์ ประเภท 3 ,3+ ,2 ,2+ ,1 ก็ตาม เพราะความรับผิดกฎหมายต่อบุคคลภายนอก ในส่วนความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายและอนามัย จะเคลมได้ก็ต่อเมื่อวงเงินสูงสุดของพ.ร.บ. แล้ว ประกันรถยนต์ ถึงมารับช่วงจ่ายเคลมต่อ แต่ถ้าเราไม่มีพ.ร.บ. เราต้องจ่ายแทนในส่วนของพ.ร.บ.ก่อน ประกันรถยนต์ที่เราทำไว้ ถึงจะจ่ายเคลม ทำให้เราอาจเสียเงินก้อนโตได้ 


สิ่งที่ถูกต้อง คือ 

ในแต่ละปี เจ้าของรถหรือผู้ใช้ประโยชน์จากรถ กฏหมายบังคับ ต้องจัดทำ 2 อย่าง ให้ตัดสินใจเองว่าจะทำหรือไม่ 1 อย่าง ดังต่อไปนี้


กฎหมายบังคับ ต้องจัดทำ ฝ่าฝืนมีโทษปรับ
    1. จัดทำพ.ร.บ. ไม่จัดทำ ปรับสูงสุด 20,000 บาท/ไม่มีส่วนท้ายพ.ร.บ.ไปแนบเพื่อต่อภาษี
    2. ต่อภาษีรถ  ไม่จัดทำ ค่าปรับจราจร/ค่าปรับล่าช้า/ตรวจสถาพรถก่อนเวลายกเว้น/ระงับทะเบียน

ภาคสมัครใจ จะทำ หรือไม่ทำก็ได้ เป็นการโอนความเสี่ยงให้บริษัทประกันภัย
    3.ประกันรถยนต์ ประเภท 1 ,2 ,2+ ,3+ ,3


กฎหมายบังคับ ต้องจัดทำอย่างน้อย 2 อย่างคือ พ.ร.บ. กับ เสียภาษีรถ ส่วนประกันรถยนต์ จะทำหรือไม่ทำก็ได้ กฏหมายไม่ได้บังคับ แต่คนส่วนมากเลือกโอนความเสี่ยง ให้บริษัทประกัน โดยการทำประกันภัยรถยนต์











Garantee24

อดีตวิศวกรวางแผนการผลิตบริษัทผลิตรถยนต์ ที่ใช้ประกันภัย วางแผนความเสี่ยงภัยให้ตัวเอง เพราะเป็นห่วงแม่และครอบครัว มาแบ่งปันข้อมูลที่ได้ศึกษามาให้คนทั่วไป ได้เห็นประโยชน์ของการทำประกันภัย ในหลายๆด้านที่คุณอาจยังไม่รู้ แบบเข้าใจง่ายๆ

ใหม่กว่า เก่ากว่า
Garantee24