ประกันรถยนต์ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับรถเรา

        ประกันรถยนต์ มีหลายประเภท แล้วแบบไหนหล่ะที่เหมาะกับเรา ให้คุ้มค่ากับความคุ้มครองที่ได้รับ กับเบี้ยประกันที่เราจ่ายไป อะไรที่เราใช้เป็นหลักในการตัดสินใจซื้อประกันได้บ้าง เพื่อให้ครอบคลุมกับความเสี่ยงภัยของแต่ละบุคคล ก่อนอื่น มารู้กันก่อนว่าประกันแต่ละประเภท คุ้มครองอะไรบ้าง


ประกันชั้น 1 คุ้มครองมากที่สุด เรียกว่า สรรพภัย หรือ All Risk คุ้มครองทั้งหมด ยกเว้นที่มีในเงื่อนไขข้อยกเว้นในกรมธรรม์
✔ คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ (ซ่อมเรา)
✔ คุ้มครองรถหาย/ไฟใหม้
✔ คุ้มครองความรับผิดทางกฎหมายต่อบุคคลภายนอก (ซ่อมเขา ร่างกายและทรัพย์สิน)
✔ คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ
✔ ประกันตัวผู้ขับขี่ ทางคดีอาญา



ประกันชั้น 2 หรือเรียกกันว่า ประกันชั้น 2 ธรรมดา คุ้มครองทุน 80% เหมือนประกันชั้น 1 ทุกอย่าง ต่างกันอย่างเดียว คือ ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ (ซ่อมเรา)

❌ คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ (ซ่อมเรา) 
   คุ้มครองรถหาย/ไฟใหม้ 
   คุ้มครองความรับผิดทางกฎหมายต่อบุคคลภายนอก (ซ่อมเขา ร่างกายและทรัพย์สิน)
   คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ
   ประกันตัวผู้ขับขี่ ทางคดีอาญา

ประกันชั้น 3 ถือเป็นพื้นฐานของประกันรถยนต์ทุกประเภท เบี้ยถูก ความคุ้มครองสูง แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ (ซ่อมเรา) และไม่คุ้มครองรถหาย/ไฟใหม้ 

❌ คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ (ซ่อมเรา) 
 คุ้มครองรถหาย/ไฟใหม้ 
   คุ้มครองความรับผิดทางกฎหมายต่อบุคคลภายนอก (ซ่อมเขา ร่างกายและทรัพย์สิน)
   คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ
   ประกันตัวผู้ขับขี่ ทางคดีอาญา



ประกันประเภท 5 หรือ 2+ , 3+ เป็นประกันแบบ First Loss คือ มีความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ (ซ่อมเรา) เหมือนประกันชั้น 1  แต่ไม่ต้องทำทุนประกัน ไม่ต่ำกว่า 80% ของราคารถ เหมือนประกันเภท 1 เป็นทุน 1แสน 2 หรือ 3 แสนแทน แต่ต้องไม่มากกว่าราคาตลาดของรถคันนั้น เช่น ราคาตลาด 250,000 จะซื้อ 2+, 3+ สูงสุดที่ซื้อได้คือ ทุน 200,000 บาท

ความคุ้มครองของประเภท 5 
           2+ จะคุ้มครองเหมือนประเภท 2
           3+ จะคุ้มครองเหมือนประเภท 3
โดยมีความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ (ซ่อมเรา) ได้ คล้ายประเภท 1 แต่มีเงื่อนไข 2 ข้อ คือ
        1.เกิดจากรถชนรถ
        2.แจ้งรายละเอียดของคู่กรณีได้
ความคุ้มครอง 2+
  คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ (ซ่อมเรา เกิดจากรถชนรถและ แจ้งรายละเอียดคู่กรณีได้) 
 ✔ คุ้มครองรถหาย/ไฟใหม้ 
   คุ้มครองความรับผิดทางกฎหมายต่อบุคคลภายนอก (ซ่อมเขา ร่างกายและทรัพย์สิน)
   คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ
   ประกันตัวผู้ขับขี่ ทางคดีอาญา

ความคุ้มครอง 3+
  คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ (ซ่อมเรา เกิดจากรถชนรถและ แจ้งรายละเอียดคู่กรณีได้) 
 คุ้มครองรถหาย/ไฟใหม้ 
   คุ้มครองความรับผิดทางกฎหมายต่อบุคคลภายนอก (ซ่อมเขา ร่างกายและทรัพย์สิน)
   คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ
   ประกันตัวผู้ขับขี่ ทางคดีอาญา



อะไรที่เราใช้เป็นหลักในการตัดสินใจซื้อประกันได้บ้าง 

1.อายุรถ 
2.ความปลอดภัยของที่จอด
3.ประเภทเชื้อเพลิง
4.น้ำท่วมไหม

อายุรถ 

ถือว่าเป็นเหตุผลหลักของเลือกทำประกันภัย รถใหม่ กว่าจะได้มา ถ้าไม่ซื้อเงินสด ก็ต้องเสียเงินดาวน์ ต้องผ่อนกับไฟแนนซ์อีกหลายปี ถือว่ามูลค่าของรถสูง ยังใช้งานน้อย เจ้าของรถ จะห่วงว่าจะเกิดอะไรกับรถ

กลัวหาย น้อยคนที่จะซื้อรถด้วยเงินสด ส่วนมากซื้อผ่อนผ่านไฟแนนซ์ ถ้าเกิดรถหายขึ้นมา เราต้องชำระมูลหนี้ที่ยังค้างกับไฟแนนซ์ หรือที่เรียกว่า ผ่อนกุญแจ 

กลัวเกิดอุบัติเหตุเพราะคนขับยังไม่คุ้นเคยกับรถ

รถใหม่   ควรทำ ประกันชั้น 1 ,2 หรือ 2+ เพราะมีคุ้มครองรถหาย/ไฟใหม้
รถอายุ 10-20 ปี ควรทำ ประกันชั้น 2+ หรือ 3+
รถอายุเกิน 20 ปีขึ้นไป ควรทำ ประกันชั้น 3+ หรือชั้น 3

ความปลอดภัยของที่จอด 

จะมีความเสี่ยง 2 ส่วนคือ
    1.รถหาย จอดริมถนน หรือที่สาธารณะ ไม่มีกล้องวงจรปิด ควรทำประเภท 1,2,2+ เพราะมีคุ้มครอง รถหาย/ไฟใหม้
    2.รถคนอื่นมาเชี่ยว ชน ถ้าไม่มีกล้องวงจรปิด ควรทำประเภท 1 เพราะเคลมได้ประเภทเดียว ส่วน 2+ , 3+ จะเคลมได้ กรณีที่แจ้งรายละเอียดคู่กรณีได้ 

ประเภทเชื้อเพลิง 


รถติดตั้งแก๊ส ก๊าซ มีความเสี่ยงเรื่องไฟใหม้รถ ควรทำประเภท 1 , 2 , 2+ เพราะคุ้มครอง รถหาย/ไฟใหม้ 

        การทำประกัน ประเภทที่แนะนำให้ทำคือ ประเภท 1 แต่ถ้าติดเรื่อง งบประมาณ ก็แนะนำ 2+ , 3+ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ควรทำประเภท 3 อย่างน้อยที่สุด เพราะถ้าเราพลาด ขับรถไปทำให้คนอื่นเสียหาย ก็ยังมีบริษัทประกันจ่ายค่าเสียหายให้คู่กรณีแทนเรา ให้การันตี24 เช็คเบี้ยให้ฟรี ผ่อนเงินสด 0% ได้ทุกประเภท 2-10 งวด


น้ำท่วมไหม?

หากที่ทำงาน หรือที่พักอาศัย เป็นพิ้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ควรเลือกแบบประกันที่ คุ้มครองน้ำท่วม จะมีอยู่ในประกันประเภท 1 และ 2+,3+ บางแพคเกจเท่านั้น จะคุ้มครองในกรณีเหตุสุดวิสัย ที่จอดรถไว้แล้วน้ำไหล่บ่ามา หรือท่วมสูงขึ้น  ไม่สามารถเอารถออกมาได้ แต่จะไม่คุ้มครองกรณีประมาท หรือจงใจให้เกิดความเสียหาย เช่น มีประกาศแจ้งเตือน หรือเห็นว่าน้ำท่วมสูงก็ยังขับลุยเข้าไป บริษัทประกันสามารถปฎิเสธเคลมได้

เช็คเบี้ยประกัน สอบถาม แบบประกัน หรือ ปรึกษาเคลม เพิ่มการันตี24 เป็นเพื่อน ฟรี!!

เพิ่มเพื่อน
Garantee24

อดีตวิศวกรวางแผนการผลิตบริษัทผลิตรถยนต์ ที่ใช้ประกันภัย วางแผนความเสี่ยงภัยให้ตัวเอง เพราะเป็นห่วงแม่และครอบครัว มาแบ่งปันข้อมูลที่ได้ศึกษามาให้คนทั่วไป ได้เห็นประโยชน์ของการทำประกันภัย ในหลายๆด้านที่คุณอาจยังไม่รู้ แบบเข้าใจง่ายๆ

ใหม่กว่า เก่ากว่า
Garantee24